ความผิดพลาดที่เกิดขึ้นในการป้องกันโควิดระลอกสองที่มีให้เห็นกันแล้วที่อินเดีย
ประธานมูลนิธิสาธารณสุขที่ประเทศอินเดีย บางบุคคลมีความรู้สึกว่าพวกเรามีภูมิต้านทานฝูงแล้วต้องการของทุกคนกลับไปปฏิบัติงานเรื่องเล่านี้ตกอยู่ในหูที่เปิดกว้างหลายๆเสียงรวมทั้งเสียงเตือนไม่กี่เสียงก็มิได้รับการเอาใจใส่ คลื่นลูกลำดับที่สองบางทีอาจเป็นสิ่งที่เลี่ยงมิได้ แม้กระนั้นประเทศอินเดียบางทีอาจ เลื่อนออกไปหรือช้าออกไปรวมทั้งลดผลพวงได้ กอทัม ไมน่อน ศ.จ.ด้านฟิสิกส์แล้วก็ชีววิทยา เหมือนกันกับประเทศอื่นๆประเทศอินเดียควรจะเริ่มการเฝ้าระวังจีโนมอย่างละเอียดในม.ค.เพื่อตรวจตัวแปรต่างๆ เล็กน้อยของเหล่าสายพันธุ์บางทีก็อาจจะขับขี่รถลาก พวกเราได้ศึกษาเกี่ยวกับสายพันธุ์ใหม่ในก.พ.จากรายงานของเมืองมหาราษฏระซึ่งในตอนแรกข้าราชการได้ไม่ยอมรับ มิสเตอร์ ไมน่อน เพิ่ม นี่เป็นจุดเปลี่ยนที่สำคัญ
ในตอนกลางเดือนก.พ. ทาบาร์ซั่ม ผู้รายงานข่าวของหนังสือพิมพ์ อินเดียน เอ็กซ์เพรส กล่าวว่ามีผู้เจ็บป่วยรายใหม่มากขึ้น 7 เท่าในพื้นที่ของเมืองมหาพลเมืองรวมทั้งแถลงการณ์ว่าแบบอย่างจากผู้ติดเชื้อโรคได้ถูกส่งไปเพื่อจัดอันดับจีโนมเพื่อค้นหาตัวแปรที่นำเข้า ด้านในสิ้นเดือนสถานีวิทยุกระจายเสียงบีบีซีรายงานกระแสรวมทั้งถามคำถามว่าประเทศอินเดียกำลังพบเจอกับคลื่นโควิดใหม่หรือเปล่า พวกเราไม่รู้เรื่องจริงๆว่าต้นเหตุของการผ่าตัดเป็นยังไงสิ่งที่น่าวิตกเป็นอีกทั้งครอบครัวกำลังติดเชื้อโรคนี่เป็นแถวโน้มใหม่อย่างสิ้นเชิง ดร. ชยัมซุนเดอร์นิคัมศัลยแพทย์โยธาของเขตที่ได้รับผลพวงในเมืองมหาพลเมือง
ช่วงนี้ผู้ที่มีความชำนาญว่าการเพิ่มขึ้นเกี่ยวกับความสะดุดตาของประเทศอินเดียสำหรับในการ เอาชนะ การแพร่ระบาด – ราษฎรที่อายุน้อยภูมิต้านทานของคนพื้นเมืองราษฎรในบ้านนอกโดยมาก – รวมทั้งการประกาศชัยของเชื้อไวรัสเปลี่ยนเป็นเรื่องโหดร้ายทารุณก่อนวัยอันควรจะ ตามธรรมดาในประเทศอินเดียความจองหองอย่างเป็นทางการชาตินิยมที่มากเหลือเกินประชากรนิยมแล้วก็ความไม่มีความสามารถของระบบราชการมากมายได้รวมเข้าด้วยกันเพื่อสร้างวิกฤต ไม่ฮีร์ชาร์คอลัมนิสต์ของบลูมเบิร์ก
คลื่นลูกลำดับที่สองของประเทศอินเดียได้รับแรงหนุนจากผู้คนที่ทอดทิ้งยามร่วมงานสมรสรวมทั้งงานฉลองและก็การส่งข้อความแบบผสมจากรัฐบาลทำให้มีการประชุมด้านการเมืองและก็การรวมกันทางศาสนา เมื่อการได้รับเชื้อน้อยลงผู้คนปริมาณลดน้อยลงก็เลยใช้ยาฉีดกระตุ้นการฉีดยาให้ช้าลงซึ่งมีเป้าหมายที่จะฉีดยาให้กับผู้คน 250 ล้านคนในสิ้นเดือนก.ค. ในกลางเดือนก.พ. บามาร์ มันฮีจักจี้ นักชีวสถิติที่มหาวิทยาลัยไม่ชิแกนทวีตว่าประเทศอินเดียจำต้อง รีบขับการฉีดยาในเวลาที่ปริมาณคนป่วยมีน้อย ไม่มีผู้ใดมองเห็น